Wednesday, 24 April 2024

นอนโลงศพ สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา สายมูต้องรู้! เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี

ถ้าพูดถึงความตายแล้วละก็ถือเป็นเคราะห์อย่างหนึ่งของมนุษย์ และพยายามหาหนทางที่จะต่อชะตาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด ๆ และหนึ่งในวิธีที่เลือกก็คือพิธีการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา นอนโลงศพ บังสุกุลเป็นบังสุกุลตาย ก็คือวิธีการแก้เคล็ด แก้เคราะห์ชั้นดี! ที่เชื่อว่าจะช่วยให้รอดพ้นจากเคราะห์ร้ายภยันตรายทั้งปวงได้

นอนโลงศพ

การสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา คืออะไร?

ความหมายของคำว่า สะเดาะเคราะห์ที่จริงแล้วอาจจะไม่ได้มีการแปลความอย่างตรงตัวแน่ชัด แต่มีที่มาจากคำที่มีความหมายหลายคำมารวมกันอย่างคำว่า

  • สะเดาะ นั้นมีความหมายถึงการทำให้หลุดออก หรือเบาบางลง ทำให้หลุดพ้นจากสิ่งไม่ดีต่าง ๆ หลุดพ้นจากอันตราย และก่อให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น
  • เคราะห์ คือ ผลแห่งกรรมทั้งดีและไม่ดี ที่อาจนำมาซึ่งความเสียหายสูงสุด แก้ไขอะไรอีกไม่ได้ก็เป็นได้ ดังนั้นคำว่าเคราะห์จึงหมายถึง ความไม่ดี ความอัปมงคล และความหายนะทั้งปวง
  • สะเดาะเคราะห์ ก็คือ วิธีการหนึ่ง ๆ ในการช่วยบรรเทาสิ่งเลวร้ายต่างๆ ให้ทุเลาลง ทำให้หลุดพ้นจากสิ่งไม่ดีต่าง มีความหมายโดยรวมว่าเป็นวิธีการหนึ่ง ๆ ในการช่วยบรรเทาสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น ให้ทุเลาเบาบางล
  • ต่อชะตา หรือ สืบชะตา เป็นพิธีมงคลเพื่อต่ออายุให้ยืดยาวต่อไปเป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ ที่เชื่อว่าจะทำให้มีชีวิตสุขสบายปราศจากโรคภัยภยันตรายทั้งหลายชีวิตเจริญรุ่งเรืองสืบไป สำหรับพิธีการต่อชะตาหรือสืบชะตานี้ถือเป็นการสะเดาะเคราะห์ แก้เคล็ดให้พ้นเคราะห์ทั้งปวง

การสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยการบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย ทำอย่างไร?

การบังสุกุล
ก็คือพิธีการบังสุกุลที่ถูกนำมาใช้เป็นกรณีพิเศษกับคนที่กำลังมีเคราะห์หนักหรือป่วยหนัก เพื่อเป็นการแก้เคล็ด แก้เคราะห์ เปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดีปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไปซึ่งจะประกอบพิธีด้วยพระสงฆ์ ทำตามขั้นตอน ดังนี้

  • ให้บุคคลผู้ที่ต้องการทำพิธีลงไปนอนหงายในโลงศพ พร้อมประนมมือ หันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ในลักษณะคล้ายคนตาย
  • ใช้ผ้าขาวที่เปรียบเสมือนเป็นผ้าคลุมศพมาห่มตัวผู้สะเดาะเคราะห์ไว้ทั้งตัว
  • พระสงฆ์จำนวน 4 รูป จะเริ่มทำการจับชายผ้าที่ผูกด้วยสายสิญจน์ สวดบทบังสุกุลตาย ซึ่งเป็นเสมือนผู้สะเดาะเคราะห์ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้วสิ้นสุดการประสบเคราะห์กรมต่าง ๆ
  • หลังจากพระสงฆ์สวดบทบังสุกุลตายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะให้ผู้สะเดาะเคราะห์เปลี่ยนทิศนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันออก
  • จากนั้นพระสงฆ์จะเริ่มสวดบทบังสุกุลเป็น การสวดบทนี้เป็นเสมือนได้เปลี่ยนชีวิตใหม่ ล้างสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย
  • เมื่อสวดบทบังสุกุลเป็นเสร็จ พระสงฆ์ก็จะให้ศีล ให้พร ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการสะเดาะเคราะห์

บทสรุป

ยังสื่อให้ผู้สะเดาะเคราะห์ตระหนักรู้ถึงสัจธรรมของชีวิตมนุษย์ทุกคนว่าไม่มีผู้ใดสามารถหนีพ้นไปจากความตายได้
การประกอบพิธีนี้จึงเป็นเสมือนการซ้อมตายก่อนความตายจริง ๆ จะมาเยือน และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการแก้เคล็ด เมื่อมีเคราะห์ ชีวิตสะดุดไม่ราบรื่นแต่ก็ไม่สามารถที่จะรับรองได้ว่า หากทำพิธีสะเดาะเคราะห์ตามวิธีต่างๆที่นำมาฝากนี้แล้วจะสามารถช่วยทำให้ชีวิตพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้จริง ๆหรือไม่
ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องของความเชื่อและความศรัทธาส่วนบุคลทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านว่าจะพิจารณาเรื่องพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตานี้เป็นอย่างไร ไม่ผิดที่จะเชื่อ หรือศรัทธาแต่ควรมีเหตุผลการทำวันนี้ให้ดีที่สุดย่อมเป็นการปูทางให้อนาคตของตัวคุณเอง ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรอย่าลืมติดตามนะ